วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

5 อันดับ จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย

5 อันดับ จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย


จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย
 อันดับ 5. ชลบุรี
จังหวัดชลบุรี ความนิยมร้อยละ 5.63% เป็นแหล่งรวมทะเลยอดฮิตของไทย เกาะล้าน เกาะสีชัง บางแสน เขาสามมุข แหลมแท่น ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ อาจเพราะสะดวกด้วยระยะทางไม่ไกล ได้สัมผัสทะเลโดยใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง
จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย 
อันดับ 4. เชียงราย
จังหวัดเชียงใหม่ คนอยากไปร้อยละ 11.86% นิยามที่รู้กัน “เชียงรายเหนือสุดแดนสยาม” หนึ่งสถานแห่งการพักผ่อน สูดอากาศเข้าปอดได้เต็มที่ สถานที่เที่ยวยอดนิยม ได้แก่ ดอยแม่สลอง ดอยตุง ภูชีฟ้า และ วัดร่องขุน ซึ่งติดหนึ่งในวัดที่สวยที่สุดในโลก
จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย
 อันดับ 3. กระบี่
จังหวัดกระบี่ คะแนนนิยมร้อยละ 11.86% ด้วยความสวยงามของทะเล และ unseen มากมาย อย่าง ทะเลแหวก หรือ เกาะยอดฮิตอย่าง เกาะพีพี ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล สวยงามด้วยปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ อย่าง สุสานหอย 40 ล้านปี
จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย 
อันดับ 2. ภูเก็ต
จังหวัดภูเก็ต หรือ เกาะภูเก็ต คนอยากไปร้อยละ 23.59% เป็น เกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่เที่ยวอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่คนไทยและต่างชาติ ตั้งแต่ หาดป่าตอง หาดสุรินทร์ แหลมพรเทพ แหลมพันวา นานาชายหาดชื่อดังที่คอทะเลต้องมาสัมผัสสักครั้ง
จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย
อันดับ 1. เชียงใหม่
จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย
จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความนิยมสูงสุดร้อยละ 31.07 % เป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลก มากมายด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ความเป็นท้องถิ่นควบคู่ไปกับความเจริญ ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นและภูมิศาสตร์ที่สวยงาม แวดล้อมด้วยภูเขาสูงและดอยน่าเที่ยว อาทิ ดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ดอยเชียงดาว ออบหลวง ออบขาน ทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทางประเพณีและวัฒนธรรม หัตถกรรมพื้นบ้าน ล่าสุด จังหวัดเชียงใหม่ สมัครเข้าร่วมการพิจารณาเป็น เมืองสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมของยูเนสโก

แนวคิดและหลักการท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ

 แนวคิดและหลักการท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ




Ecotourism เป็นคำที่เกิดใหม่ในวงการ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยนำคำ 2 คำมารวมกัน ได้แก่ Eco และ Tourism คำว่า Eco แปลตามรูปศัพท์ว่า บ้านหรือที่อยู่อาศัย ส่วน Tourism แปลว่า
การท่องเที่ยว Ecotourism จึงแปลว่า การท่องเที่ยวเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย หมายความถึง การท่องเที่ยว
ที่เน้นในด้านสิ่งแวดล้อมอันเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์

ส่วนคำว่า นิเวศ ซึ่งเป็นคำภาษาสันสกฤตที่นำมาใช้ในภาษาไทยก็แปลว่า บ้านหรือที่อยู่อาศัยเช่นกัน (ดูพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน) ฉะนั้น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศจึงเป็นศัพท์บัญญัติที่มีความหมายตรงกับคำในภาษาอังกฤษอย่างเหมาะสม

นอกจากคำว่า Ecotourism แล้ว ยังมีคำอื่นๆที่มีความหมายใกล้เคียงหรือเกี่ยวข้องกันอีกหลายคำ ได้แก่ Green tourism แปลว่า การท่องเที่ยวสีเขียว หมายถึง การท่องเที่ยวสถานที่ทางธรรมชาติ
โดยสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ Biotourism แปลว่า การท่องเที่ยว
เชิงชีวภาพ ซึ่งหมายถึง การท่องเที่ยวที่เน้นการศึกษาสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ และ Agrotourism แปลว่า การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นการท่องเที่ยวที่เน้นในด้านเกษตรกรรม เพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของพืชผลไร่นา และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร

คำว่า การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นศัพท์บัญญัติที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำมาใช้        อย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2541 โดยให้มีความหมายตรงกับคำว่า Ecotourism ในภาษาอังกฤษ
ศัพท์บัญญัตินี้ได้รับความเห็นชอบจากราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบัญญัติศัพท์แล้วเพื่อขยายความหมายของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จะขอกล่าวถึงคำนิยามที่นักวิชาการ
ได้ให้ไว้ในที่ต่างๆ ดังนี้
  • องค์การสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme – UNEP) สมาคมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism Society) และองค์การ การท่องเที่ยวโลก (World Tourism Organi- zation) ให้คำนิยามว่า ”การท่องเที่ยวที่ไม่เป็นการรบกวนลักษณะทางธรรมชาติ มุ่งหวังในด้านการศึกษา มีความพอใจต่อทัศนียภาพ พืชพรรณ และสัตว์ตามธรรมชาติ มีความเข้าใจต่อวัฒนธรรม ประวัติความเป็นมาของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ โดยไม่เป็นการรบกวนต่อระบบนิเวศ ในขณะเดียวกัน
    ก็สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ที่จะทำ ให้เกิดการอนุรักษ์ต่อทรัพยากรของประชากร ในท้องถิ่น”
  • ดร. ราลฟ์ บักลีย์ (Dr. Ralph Buckley) ศาสตราจารย์ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มหาวิทยาลัยกริฟฟิท ประเทศออสเตรเลีย ให้คำนิยามสั้นๆว่า ”การท่องเที่ยวที่อาศัยผลิตผล
    ทางธรรมชาติ การจัดการที่ยั่งยืน และองค์ประกอบทางการศึกษาซึ่งมีส่วนก่อให้เกิดการอนุรักษ์”
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้คำนิยามว่า “การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใดแห่งหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา ชื่นชม และเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพธรรมชาติ สภาพสังคม วัฒนธรรม และชีวิตของคนในท้องถิ่น บนพื้นฐานความรู้และความรับผิดชอบต่อระบบนิเวศ”

ช่วงกระแสของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแพร่ขยายไปทั่วโลก และททท. ได้จัดทำแผนพัฒนาและ          จึงได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่อง Ecotourism ระยะแรกคณะทำงานมีมติใช้คำจำกัดความ Ecotourism
ในความหมายภาษาไทยว่า “การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสื่อความหมายให้กับชาวไทย
ทุกระดับให้เข้าใจว่า รูปแบบการท่องเที่ยว  Ecotourism นับเป็นรูปแบบการจัดการการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และรูปแบบการจัดการการท่องเที่ยว เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมในการรับรู้ของชาวไทย คือ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่อมา ททท. ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วท.) ทำการศึกษาเพื่อกำหนดนโยบายการท่องเที่ยวเพื่อรักษาระบบนิเวศ และขอให้ราชบัณฑิตสถานกำหนดความหมายในที่สุดจึงได้ความหมายของคำว่า Ecotourism หรือ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หมายถึง “การท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบในแหล่งธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และแหล่งวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว โดยมีกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การจัดการอย่างมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดจิตสำนึกต่อการรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน”

วัฒนธรรมของไทยที่มีผลต่อการท่องเที่ยว

ศิลปะ วัฒธรรม และแหล่งมรดก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ รวมทั้งเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินชมความงามของแหล่งธรรมชาติและวิถีชีวิตที่ถูกถ่ายทอดเป็นงานศิลปะจัดแสดงไว้ตามแกลเลอรี
ในประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดกอยู่มากมาย เพราะเรามีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานไม่ต่ำกว่า 700 ปี จนถึงวันนี้ ร่องรอยของความรุ่งเรืองในวันเก่าก่อนยังคงปรากฏตกทอดอยู่ตามสถานที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งได้รับคัดเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกที่คนไทยภาคภูมิใจ
กิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยวประเภทนี้คือการเรียนรู้ที่ได้รับความเพลิดเพลินไปพร้อมๆ กัน นับว่าเป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่ได้ประโยชน์ในแง่ของสมองและจิตใจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
ประเภทของแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
แลนด์มาร์กและอนุสรณ์สถาน (Landmarks and memorials) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้คุณรู้จักจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ และได้เรียนรู้ความเป็นมาของสถานที่โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน
พิพิธภัณฑ์ (Museums) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้คุณเข้าถึงและเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับความเป็นมาเป็นไปของสถานที่ที่คุณไปเยือน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อย่างเพลิดเพลินใจ
บ้านโบราณ (Historical Houses) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนที่อยู่ในย่านนั้นมาแต่เก่าก่อน ผ่านทางบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง และการตกแต่งที่สะท้อนถึงเรื่องราวในวันวาน
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และอนุสาวรีย์ (Historical sites & monuments) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้คุณได้เรียนรู้เรื่องราวอดีตในพื้นที่จริง ซึ่งปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูให้กลับมามีสภาพคล้ายของดั้งเดิมที่สุด สำหรับอนุสาวรีย์ก็คือจารึกทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในรูปแบบของสิ่งก่อสร้าง ซึ่งมีเรื่องราวให้คุณศึกษาได้อย่างลึกซึ้ง
ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม (Art & craft centres) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้คุณได้รู้จักวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชน ในสถานที่ที่จัดนิทรรศการเรื่องราวและแสดงงานศิลปหัตถกรรมของผู้คนในชุมชนออกมาอย่างมีชีวิตชีวา
อาร์ตแกลเลอรี (Art Galleries) เป็นสถานที่ที่ทำให้คุณได้รู้จักวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชน ผ่านมุมมองและแนวคิดหลากหลายของศิลปิน ในรูปแบบของศิลปะที่จัดแสดงไว้เป็นหมวดหมู่
สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ 2 (World war II sites) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนให้เห็นถึงผลพวงของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งบัดนี้ยังเหลือร่องรอยแห่งความทรงจำครั้งนั้นอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
พระราชวัง (Royal Palace) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งสะท้อนผ่านพระราชวังอันวิจิตรงดงาม ในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นหนึ่งเดียว

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสาน

                      แหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสาน


  

 
อีสานคลาสสิก และ 8 สุดยอดแห่งที่ราบสูงอีสาน (อ.ส.ท.)
โดย อภินันท์ บัวหภักดี 
          อีสานวันนี้ แม้หลายสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก แต่อีสานก็ไม่เคยฮ่าง วันนี้กลับกลายเป็นแผ่นดินที่ควรค่าแก่ความภาคภูมิใจ ยิ่งในยุคที่โลกร้อนและอาหารแพง อีสานกลับเป็นดินแดนแห่งข้าวหอมมะลิ และกำลังจะชุ่มน้ำด้วยอภิมหาโครงการใหญ่ยักษ์หลายโครงการ แต่เหนืออื่นใด อีสานนี้แหละที่จะเป็นดินแดนหน้าบ้านของประเทศไทยในการออกไปรับหน้ากับการเติบโตของอุษาคเนย์ ที่กำลังพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรีบรุด

          วันนี้คนอีสานนับแสนภาคภูมิใจกับความเป็นแผ่นดินผืนที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศ การมีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีผู้แทนราษฎรจำนวนมากที่สุด และมีเมืองใหญ่ ๆ ที่ใหญ่โตจริง ๆ ทัดเทียมกันมากมายหลายเมืองด้วยกันผู้คนอีสานวันนี้ทำมาหากินขยันขันแข็ง กำลังงานวันก่อนที่ค่อยเริ่มสร้างบ้านแปลงเมืองเคยออกไปไขว่คว้าหาประสบการณ์ต่างบ้าน ไม่เพียงไปในเมือง ในจังหวัดกรุงเทพฯ หรือประเทศไทย แต่บุกบั่นไกลไปทั่วโลก มาถึงวันนี้ได้นำเข้าอารยธรรมความเจริญ เงินตราความรู้ความคิดใหม่ๆ กลับมาพัฒนามาตุภูมิอย่างมีคุณค่าอเนกอนันต์
 
          และเช่นเดียวกัน ในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และความสวยงามตามธรรมชาติ อีสานก็มีสิ่งดี ๆ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และเป็นความยิ่งใหญ่ ไม่เฉพาะเพียงของอีสาน หากยังเป็นเอกลักษณ์ความยิ่งใหญ่ของประเทศด้วยในขณะเดียวกันอีกหลายแง่หลายมุม      
          "เมืองนี้ ดินดำน่ำชุม ปากุ่มบ้อน คือแข่แกงหาง ปานางบ้อน คือขางฟ่าลัน จักจั่นฮ้อง คือฟ่าลวงบน แตกจ้นจ้น เสียงปีบ โฮแซว เมืองนี้ มีสุแนวระบำลำฟ่อน"
 1. สุดยอดขุนเขาแห่งการท่องเที่ยว...ภูกระดึง
          เมื่อเอ่ยถึงภูเขา สิ่งที่ไปกันได้ดีก็คือเรื่องของการท่องเที่ยว เพราะบนภูเขามีสิ่งดึงดูดความสนใจให้ขึ้นไปเที่ยวชมมากมาย อย่างพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ป่าใหญ่ๆ ดอกไม้ป่างามๆ น้ำตกบึ้มๆ หน้าผาและจุดชมวิวสวยๆ ไม่เพียงเท่านั้นอุณหภูมิบนภูเขาทั้งกลางวันกลางคืนก็หนาวเย็น สร้างบรรยากาศโรแมนติก ชวนให้เบียดกายใกล้ชิดสนิดแนบ เหมาะแก่การพาคู่รักหรือเพื่อนร่วมใจไปสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศ ภูเขาจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับของผู้คนทั่วโลก 
          แนวทิวเขาของอีสานประกอบไปด้วยแนวทิวขาเพชรบูรณ์และแนวทิวเขาดงพญาเย็น ที่เป็นเสมือนสันกั้นพรมแดนระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน จากที่ราบลุ่มภาคกลางจะขึ้นสู่ที่ราบสูงอีสานก็ต้องทะลุแนวภูเขานี้ขึ้นไปทั้งสิ้น ต่ำลงมาประชิดกับภาคตะวันออกชายฝั่งทะเล คือเทือกเขาสันกำแพง ที่ด้านหนึ่งเป็นจังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้ว กับอีกด้านหนึ่งก็คือพื้นที่อำเภอโนนสูง เสิงสาง และครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ทิวเขานี้ยังเชื่อมโยงต่อไปถึงพนมดงรัก ซึ่งเป็นแนวกั้นอีสานกับดินแดนกัมพูชาและ สปป. ลาว และทั้งหมดนี้ก็คือ แนวภูเขาที่กั้นอีสานออกเป็นเอกเทศ แทบจะเป็นที่ราบกลมๆ บนที่สูง จากอีสานจะลงมาภาคกลางหรือไปภาคเหนือ อย่างไรเสียก็ต้องเจอภูเขา จะไปตามทางราบๆ ตลอดไม่ได้
          นอกจากนี้ อีสานยังมีแนวเทือกเขาภูพานที่เป็นเส้นตัดขวางแบ่งกั้นให้เกิดเป็นอีสานเหนือ คือจังหวัดอุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม และเลย และอีสานใต้ที่มีอยู่อีกมากมายหลายจังหวัด ทั้งหมดเสมือนถูกตัดแยกออกจากกันอย่างเด่าชัดด้วยเทือกเขาภูพานแห่งนี้
          และในบรรดาเทือกภูเขาสูงอีสานหลากหลายนี้ เทือกเขาเพชรบูรณ์ดูจะเป็นเทือกเขาที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุด ก่อให้เกิดภูเขาย่อยๆ ที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีความหลากหลายของสรรพชีวิตสวยงามมากมายหลายแห่ง และหากจะกล่าวกันถึงเรื่องท่องเที่ยวแล้ว ก็เชื่อแน่ว่าไม่มีใครปฏิเสธ หากจะยกตำแหน่งสุดยอดภูเขาท่องเที่ยวให้กับภูกระดึง แห่งเทือกเขาเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย
          ภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ที่ไม่เคยเสื่อมคลายมนตร์ขลัง เพราะที่นี่มีทุกๆ อย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ จุดเด่นของภูกระดึงคือความสวยงามของภูเขา สายหมอกหน้าผา พรรณไม้ และสัตว์ป่า กล่าวกันว่า ถ้านักท่องเที่ยวจะเริ่มต้นออกเดินทางท่องธรรมชาติ ภูกระดึงจะเป็นเสมือนโรงเรียนประถมต้นของการท่องเที่ยวภูเขากันเลยที่เดียว
 2. สุดยอดภูผาและผืนป่าอนุรักษ์
          นอกจากภูเขาจะเป็นแหล่งรวมความงดงามน่าท่องเที่ยวแล้ว ยังมีความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารอีกด้วย กระบวนการจะเริ่มตั้งแต่น้ำฝนที่ประพรมผืนป่าบนภูเขา ต้นไม้มีหน้าที่เก็บกักน้ำนั้นไว้ แล้วค่อยปล่อยลงสู่ลำน้ำเล็กๆ  ที่ไหลลงมาตามความลาดชันของภูเขา รวมกันเป็นลำน้ำสายใหญ่ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั้งไหลลงสู่ที่ราบสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้คนเบื้องล่าง นอกจากบทบาทนี้แล้ว ป่าบนภูเขายังเป็นแหล่งรวมของนานาสรรพชีวิตหลากหลาย ทั้งพืชและสัตว์ รวมถึงนกหายากอีกหลากหลายประเภท ภูเขาจึงเป็นแหล่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เพื่อให้ต้นน้ำลำธานคงความอุดมสมบูรณ์ชุ่มชื้น สัตว์ป่า นก และพืชหายากนานาพรรณมีโอกาสดำรงพันธุ์ของตนสืบไป
 
          ในอีสานมีผืนป่าอนุรักษ์ด้วยกันมากมายหลายแห่ง อย่างอุทยานแห่งชาติที่เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ล่าสุดของเมืองไทย คืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่กินพื้นที่ไม่เฉพาะเพียงภาคอีสาน แต่ยังแผ่ขยายพื้นที่กว้างขวางมาถึงภาคกลางด้านตะวันออกเขาใหญ่ในด้านหนึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำบางปะกงในภาคกลาง และอีกด้านหนึ่งก็เทน้ำไหลลงสู่ลำห้วยต่างๆ ของน้ำมูน น้ำชี นอกจากนั้น อีสานยังมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ซึ่งงดงามด้วยพรรณไม้หายากนานาพรรณ ควรค่าแก่การศึกษา รวมทั้งเขตอุทยานแห่งชาติริงโขงที่น่าสนใจอย่างอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ภูวัว แก่งตะนะ และที่อื่น ๆ อีกมากมาย
          ในบรรดาภูผาและผืนป่าอนุรักษ์ทั้งหลายของอีสานนั้น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง คือสุดยอดของภูผาและผืนป่าอนุรักษ์ที่เรา อ.ส.ท. อยากจะยกย่องให้เป็นสุดยอดของอีสานในด้านภูเขาและผืนป่าแห่งการอนุรักษ์
 3. สุดยอดสายน้ำฉ่ำเย็น แม่น้ำโขง ชี มูน
          แม่น้ำโขง  คือสุดยอดแม่น้ำของอีสาน ข้อนี้คงไม่มีใครจะปฏิเสธได้ แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกในภาคเหนือที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นระยะทางสั้นๆ ก่อนจะออกจากประเทสไทยที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเดียวกัน จากนั้นแม่น้ำโขงจึงไหลกลับเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งในแผ่นดินอีสาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จากเชียงคาน แม่น้ำโขงก่อให้เกิดหาดทราบ โขดหิน และเกาะแก่งที่สวยงามมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มีที่พักและรีสอร์ตมากหลายได้รับการจัดสร้างขึ้นไว้รองรับนักท่องเที่ยวผู้มาชมความสวยงามของแม่น้ำโขงที่นี่ 
          สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 เป็นสะพานนานาชาติแห่งแรกที่พาดข้ามไปบนแม่น้ำสายนี้ เชื่อมมิตรภาพสองฝั่งโขง ร้อยใจลาว-ไทยน้องพี่เข้าด้วยกัน จากสะพานมิตรภาพๆ แม่น้ำโขงก็ขยายตัวกว้างใหญ่ ทอดผ่านเมืองสองฟากฝั่งที่ล้วนเป็นเมืองสำคัญของสองประเทส เช่น เมืองบึงกาฬ เมืองบอลิคัน เมืองนครพนม และเมืองท่าแขก จนมาพบกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร จากนั้นแม่น้ำโขงก็ไหลต่อลงไปผ่านเมืองเขมราฐ ก่อให้เกิดแก่งหินที่สวยงามขึ้นอีกหลายชุดก่อนจะไปสุดท้ายออกจากประเทสไทยที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
          ระหว่างทางเดินของแม่น้ำโขงได้ก่อให้เกิดสิ่งดีๆ มากหลาย ประชาชนสองฟากฝั่งใช้แม่น้ำโขงเป็นแหล่งอาหาร แหล่งทำมาหากินด้านการเกษตรมากมาย ที่หน้าเมืองนครพนมและเมืองเวียงจันทน์เกิดเป็นหาดทรายกว้างใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของทั้งสองประเทศ งานเทศกาลประเพณีที่เกี่ยวข้องกัยการท่องเที่ยว เช่น ประเพณีแข่งเรือ ประเพณีไหลเรือไฟ และปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น ก่อให้เกิดการทางท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง
 
          แม่น้ำมูน  เป็นแม่น้ำสายกว้างใหญ่และยาวที่สุดในอีสาน เกิดขึ้นจากแนวทิวเขาสันกำแพงบางส่วน และทิวเขาพนมดงรักอีกบางส่วน แม่น้ำมูนไหลลงไปกลายเป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำโขง ตรงจุดที่แม่น้ำมูนไหลลงแม่น้ำโขงเรียกว่าแม่น้ำสองสี เมืองโขงเจียม

          ส่วน แม่น้ำชี ต้นกำเนิดคือแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ แล้วไหลผ่านไปยังที่ราบตอนกลางของภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร แล้วไหลมาลงยังแม่น้ำมูนที่จังหวัดอุบลราชธานี ต่อจากนั้นจึงรวมกันไหลลงแม่น้ำโขงที่ปากมูลอีกต่อหนึ่ง
          ถึงตรงนี้ อ.ส.ท. เราจึงฟันธงไปได้เลยว่า สุดยอดแห่งแม่น้ำอีสาน จะมีแม่น้ำไหนเกินแม่น้ำโขง บวกกับลำน้ำสาขา แม่น้ำมูน แม่น้ำชี เป็นไม่มี...ฟันธง
 4. สุดยอดความงามทุ่งดอกไม้ป่า
          ในบรรพาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายประเภทในประเทศไทยนั้น ทุ่งดอกไม้ป่านับเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่เที่ยวได้เที่ยวดี ใครๆ ก็ไปเที่ยวได้ ใครๆ ก็ชอบ แทบไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ วัย ความเก่งกล้าสามารถ หรือแม้กระทั่งความรอบรู้ของนักท่องเที่ยว 
          ภาคอีสานมีทุ่งดอกไม้ป่าอันงดงามอยู่จำนวนไม่น้อย โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ ทุ่งกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ ทุ่งดอกไม้ดินที่ป่าสมอปูน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา-ปราจีนบุรี ทุ่งดอกไม้ดินที่ภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร กลุ่มดอกไม้ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย กลุ่มดอกไม้ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย และทุ่งดอกไม้ดินที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบนราชธานี เป็นต้น 

          นอกจากทุ่งดอกไม้ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีนี้แล้ว ยังมีทุ่งดอกไม้ประเภทขึ้นเองตามหัวไร่ปลายนา และทุ่งดอกไม้ปลูกเพื่อเอาน้ำมันอีกบางชนิด ที่ในฤดูกาลก็สวยงามบานสะพรั่งน่าไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งอีกหลายประเภท เช่น ทุ่งดอกหญาบัว ดอกปอเทือง และทุ่งดอกทานตะวัน แถบรอยต่อจังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรี เป็นต้น
 
          และจากทั้งหมดนี้ อ.ส.ท. ขอฟันธงว่า ทุ่งกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ และ ทุ่งดอกไม้ดินบนลานหิน อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี มีความเป็นสุดยอดที่พอ ๆ กัน เนื่องเพราะบนลานดอกไม้ทั้งสองแห่งนั้น ล้วนมีการจัดการเพื่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี การเข้าชมเป็นเระเบียบเรียบร้อย ขนาดของทุ่งดอกไม้เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ เมื่อถึงฤดูกาลมีดอกไม้จำนวนมากผลิบานแน่นขนัด เที่ยวได้ไม่เบื่อ อยู่ในพื้นที่ที่มีความสะดวกในการเข้าถึงได้เป็นอย่างดี มีที่พักทั้งของภาครัฐและเอกชนบริการพร้อมพรั่ง อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ รอรองรับนักท่องเที่ยวให้สามารถไปต่อยอดในที่อื่น ๆ ได้อีก 

แหล่งท่องเที่ยวที่นิยมที่สุดใน4ภาค


กรุงเทพมหานคร

  เมืองหลวงเล็กๆ แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคนทั่วโลก อาจเป็นเพราะวัฒนธรรมอันงดงาม ความมีชีวิตชีวาที่ยากจะหาใดเปรียบ หรืออาจเป็นเพราะกิจกรรมสุดหฤหรรษ์ที่แฝงตัวอยู่ทุกย่างก้าว แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากรุงเทพมหานคร ช่างเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหลเฉพาะตัวที่โดนใจหลายต่อหลายคน และพิสูจน์ได้จากการถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกอยู่เสมอ



เชียงใหม่

 เมืองท่องเที่ยวแห่งดินแดนภาคเหนือ พร้อมพรั่งไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม จึงเป็นที่นิยมชวนให้ไปแอ่วเป็นอย่างมาก ใครได้ไปเยือนก็ต่างติดใจ และหลงรักเชียงใหม่กันแทบทุกคน เพราะเป็นจังหวัดสุดฮิตที่ไม่เคยตกอันดับไปจากใจนักท่องเที่ยว  หากนึกอยากจะไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง เชียงใหม่ จะถูกนึกถึงเป็นรายชื่อต้นๆ อยู่เสมอ 


พระนครศรีอยุธยา

      ซุกซ่อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าอัศจรรย์ใจไว้มากมาย ประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวได้หลายวิธีทั้งการนั่งรถราง นั่งช้าง ปั่นจักรยาน ชมเมืองมรดกโลก ที่เป็นเมืองอู่ข้าว อู่น้ำ มีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสายเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตและก่อเกิดเป็นสายน้ำแห่งอารยธรรมที่ไหลผ่านอดีตกาลนำความภาคภูมิใจสู่ลูกหลานไทยในปัจจุบัน


ภูเก็ต

      เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เป็นเกาะเดียวที่มีฐานะเป็นจังหวัด ภูเก็ตได้รับสมญานามว่า มุกงามของไทย เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมาแต่โบราณ อาคารในตัวเมืองภูเก็ตส่วนมากเป็นตึกสมัยเก่าแบบยุโรป เป็นเกาะที่สวยงาม มีชายทะเลขุนเขาสวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวอย่างยิ่ง


กาญจนบุรี

         ดินแดนที่มีหน้าบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาตลอดทุกยุคสมัย และนักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่จะไม่เคยเดินทางมาสัมผัสกับดินแดนแห่งนี้ ปัจจุบันกาญจนบุรีก็ยังคงมีมนต์เสน่ห์อยู่ไม่เสื่อมคลาย ด้วยความสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ประเพณี และวิถีชีวิตชุมชนที่หลากหลาย รวมถึงร่องรอยประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บทเรียนราคาแพงจากความโหดร้ายของสงคราม อันเป็นที่มาของสะพานข้ามแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายมรณะที่โด่งดังไปทั่วโลก

แหล่งท่องเที่ยวในภาคใต้




เกาะพีพีเล กระบี่


          มีพื้นที่เพียง 6.6 กม.  เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน  มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเล โดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร โดยมีบริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะฯลฯ นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 สมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนี เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "ถ้ำพญานาค" ตามรูปร่างหินก้อน หนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะ ของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่น บนเกาะแห่งนี้ ภาย ในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้ พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน  และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่าภาพ เขียน เหล่านี้เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจรสลัด เพราะจากการศึกษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวัน ตกไปยังฝั่งตะวันออก บริเวณนี้อาจเป็นจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้าหรือซ่อมแซม เรือได้


อ่าวมาหยา กระบี่

         อ่าวมาหยา เป็นการสร้างสรรค์ของธรรมชาติที่เกิดจากหน้าผาที่โอบล้อมพังทลายกลายเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับทะเลภายนอก น้ำทะเลไหลเวียนเข้าออกได้ดี เกาะหินปูนแห่งนี้ยังตั้งอยู่ห่างชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร  น้ำทะเลใสช่วยให้แสงส่องผ่านในระดับเหมาะสม ตัวอ่อนของปะการังที่ล่องลอยอยู่ทั่วบริเวณพากันลงเกาะบนหินที่ทับถมอยู่กลางอ่าว  เวลาผ่านไปหลายพันปี แนวปะการังขยายขนาดปกคลุมทั่วอ่าวมาหยา ในเวลาเดียวกับที่ทะเลมีการเปลี่ยนแปลง กระบวนการของธรรมชาติยังเกิดขึ้นบนชายฝั่ง ตะกอนทรายตกทับถมรวมกันกลายเป็นหาด ผลของพืชชายทะเลที่ล่องลอยมากับน้ำบ้าง มากับสัตว์ต่างๆ บ้าง เจริญงอกงามกลายเป็นป่าชายหาด กินพื้นที่ตอนในของอ่าวประมาณ ๕๐ ไร่
อ่าวมาหยา มีหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลที่นี่ใสมาก เหมาะสำหรับพักผ่อน เล่นน้ำ  นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของทะเลกระบี่ อยู่ห่างจากเกาะพีพีดอน 2 กิโลเมตร อยู่ห่างฝั่งกระบี่ประมาณ 45 กิโลเมตร อ่าวมาหยา เป็นอ่าวที่ซ่อนอยู่ภายใต้แนวกำบังของกำแพงผา ด้วยเพราะเหตุที่เมื่อครั้งที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเกาะพีพีเลจึงรอดพ้นไม่ถูกทำลายและยังคงสวยงาม


หินตาหินยาย สุราษฎร์ธานี

            เป็นหินขนาดมหึมาตั้งอยู่ชายทะเล มีรูปร่างคล้ายอวัยวะเพศชายและหญิง นับเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเกาะสมุยที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องแวะเวียนไปชม ระหว่างทางเดินไปหินตาหินยายยังมีร้านค้าของฝากนานาชนิดให้ซื้อติดมือเป็นที่ระลึก เช่น ผ้าบาติก งานหัตถกรรมจากมะพร้าว กะละแม เป็นต้น
           หากเดินจากลานจอดรถผ่านร้านค้าของที่ระลึกไปจะพบลานหินกว้าง มองไปทางขวามือจะเห็นหินตา ซึ่งเกิดจากหินแกรนิตที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำทะเลและความร้อน คล้ายอวัยวะเพศชายขนาดใหญ่ตั้งชี้ฟ้าอยู่ใกล้ชายทะเล  นักท่องเที่ยวจะหยุดยืนชมหินตาจากลานหินนี้ ยามเย็นบริเวณลานหินยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมองเห็นพระอาทิตย์ลับไปหลังเนินหิน
      มีตำนานเล่าว่า นานมาแล้วมีตายายคู่หนึ่งชื่อตาเครงกับยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เดินทางโดยเรือใบเพื่อไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่ายที่ จ. ประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่ลูกชาย ครั้นเรือแล่นมาถึงแหลมละไม เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม ทั้งตาและยายได้อธิษฐานว่าขอให้เกิดเป็นสัญลักษณ์ให้ตาม่องล่ายได้ทราบว่าตามาหาแล้ว มิได้ผิดคำสัญญาแต่ประการใด ดังนั้นเมื่อตาและยายเสียชีวิต คลื่นได้ซัดร่างมาเกยชายหาด กลายมาเป็นหินตาและหินยายจนถึงปัจจุบัน



พระบรมธาตุเจดีย์วรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช

           ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง วัดพระมหาธาตุเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของ ภาคใต้และประเทศไทย ตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
 
ตามตำนานกล่าวว่า พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาสู่หาดทรายแก้ว โดยนางเหมชาลาฒ และพระธนกุมาร เมื่อประมาณปี พ.ศ.๘๓๔ จึงได้สร้างพระบรมธาตุ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ผู้ปกครองเมืองนครศรีธรรมราช จะก่อสร้างตกแต่งเพิ่มเติมอยู่เสมอ เพื่อสร้างสมความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อองค์พระบรมธาตุเช่น สมัยศรีวิชัยได้สร้างเป็นเจดีย์ทรงศรีวิชัย ต่อมาในรัชสมัยพระเจ้าจันทรภาณุ เมื่อประมาณปี พ.ศ.๑๗๙๐ ได้ทรงสร้างเป็นเจดีย์ทรงลังกาครอบองค์เจดีย์เดิมแบบศรีวิชัยไว้ภายใน
พระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานอันเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงสุดของชาวนครศรีธรรมราช และชาวใต้ทั้งปวง ไม่ปรากฎหลักฐานที่แน่นอนเกี่ยวกับประวัติการสร้างตามตำนานกล่าวว่า พระเจดีย์องค์เดิมสร้างตามความเชื่อของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เมื่อประมาณปี พ.ศ.๑๓๐๐ สมัยอาณาจักรตามพรลิงค์ ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย ต่อมาเมื่อได้มีการติดต่อสัมพันธ์กับพระภิกษุลังกา โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมราช ได้นิมนต์พระภิกษุลังกามาตั้งคณะสงฆ์ในเมืองนครศรีธรรมราชเป็นการสถาปนาพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ในระยะนั้นพระบรมธาตุองค์เดิมชำรุดทรุดโทรมมาก พระภิกษุลังกาจึงได้ช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์ให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบลังกา โดยสร้างพระสถูปแบบลังกาครอบองค์พระเจดีย์เดิม เป็นพระสถูปทรงโอคว่ำปากระฆังติดกับพื้นกำแพงแก้ว ที่มุมกำแพงแก้วมีพระบรมธาตุจำลองประดิษฐานอยู่ทั้งสี่มุม


แหลมพรหมเทพ ภูเก็ต

อยู่ห่างจากหาดราไวย์ประมาณ 2 กม. เป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่าแหลมเจ้า บริเวณแหลมพรหมเทพเป็นส่วนที่สวยงามที่สุดส่วนหนึ่งของเกาะภูเก็ต เหนือแหลมพรหมเทพเป็นที่ราบสำหรับจอดรถซึ่งอยู่บนหน้าผาสูงริมทะเล จากหน้าผานี้จะมองเห็นแหลมพรหมเทพทอดยาวออกไปในทะเล จะเห็นเกาะหลายเกาะรวมทั้งเกาะแก้ว ทางด้านขวามือจะเห็นแนวหาดทรายของหาดในหานชัดเจน จากบนหน้าผามีทางเดินลงเขาไปจนถึงสุดแหลมพรหมเทพได้ เป็นสถานทีตกได้งดงามยิ่งนัก


เหตุผลที่นิยมเที่ยวในประเทศไทย

                                  เหตุผลที่นิยมเที่ยวในประเทศไทย
            
1. มีอาหารอร่อยขั้นเทพให้เลือกรับประทานมากมาย
อาหารไทยไม่ได้มีดีแค่ต้มยำกุ้งและผัดไทยเท่านั้น แต่ยังมีอาหารพื้นเมืองอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่น่าลิ้มลองไม่แพ้กัน และถ้าใครอยากทานอาหารไทยในราคาแสนประหยัด ขอแนะนำให้ลองทานอาหารตามรถเข็น แผงข้างทาง  หรือตามไนท์มาร์เก็ตทั่วไทย เพราะจะมีอาหารราคาถูกให้เลือกมากมายตั้งแต่เมนูข้าวเหนียว อาหารทอด-ย่าง ต้มยำ ต้มข่า  ตลอดจน ผลไม้สด น้ำผลไม้ปั่น และขนมไทยนานาชนิด  แต่ที่เด็ดสุดและไม่ควรพลาดก็คือ ข้าวเหนียวมะม่วง
2. เต็มไปด้วยชายหาดและเกาะสวยๆ
หลายคนคงเคยเห็นภาพถ่ายและโปสการ์ดรูปชายหาดสวยๆ ที่มีอยู่มากมายหลายแห่งในเมืองไทย หรือไม่ก็ภาพบรรยากาศงานปาร์ตี้ริมชายหาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก สิ่งเหล่านี้แหล่ะที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางไปเที่ยวที่เมืองไทย ก็ใครล่ะจะไม่ชอบหาดทรายขาวและน้ำทะเลใส ที่สำคัญนอกจากต้นมะพร้าวแล้ว ชายหาดหลายแห่งในเมืองไทยยังประกอบด้วยภูเขาหรือหน้าผาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตาอีกด้วย… เตรียมแว่นกันแดดและหนังสือดีๆ สักเล่ม แล้วเดินทางไปเที่ยวทะเลที่เมืองไทย รับรองว่าคุณจะประทับใจไม่รู้ลืม
3. ประหยัด ถูกใจ สบายกระเป๋า แต่ก็มีที่พักและบริการระดับ 5 ดาวให้เลือกเช่นกัน
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตทั้งของบรรดาเศรษฐี คนมีกะตังส์ ไปจนถึงเหล่าแบ็คแพคเกอร์ กล่าวคือไปเยือนประเทศนี้แล้วสามารถเที่ยวได้ทั้งแบบประหยัดและสุดหรู ไม่ว่าจะไปเยือนเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือเมืองท่องเที่ยวริมทะเลอย่าง พัทยา หัวหิน ภูเก็ต ก็จะมีที่พักหลายระดับราคาให้เลือก นับตั้งแต่ห้องพักราคาถูกสุดๆ ไปจนถึงห้องสวีทสุดหรูในโรงแรม 5 ดาว แม้แต่การนวดแผนไทยก็มีให้เลือกหลายระดับราคา เรียกได้ว่าไปแล้วคุ้มค่า คุ้มราคา ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม
4. มีสินค้าดี ราคาถูก ให้เลือกช้อปกระจาย
เมืองไทยมีสินค้าน่าสนใจมากมายให้เลือกช้อป โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามตลาดนัดและไนท์มาร์เก็ต แต่แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังก็คือ ตลาดนัดสวนจตุจักร ที่นั่นคุณจะเจอของทุกอย่างที่ต้องการ นับตั้งแต่ สัตว์เลี้ยง เครื่องนอน เครื่องถ้วยชาม เสื้อผ้า อาหาร ต้นไม้ จิวเวลลี่ ฯลฯ แต่ต้องวางแผนเรื่องเวลาและเงินในกระเป๋าให้ดีๆ เพราะไปแล้วอาจช้อปเพลินจนเลยเวลาที่กำหนด หรือไม่ก็หมดงบก่อนเวลาอันควร
5. มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและเป็นมิตรสุดๆ
หลายคนเห็นภาพวัดที่มีเจดีย์สีทองอร่าม และภาพชาวเขาทางตอนเหนือของประเทศไทยแล้วรู้สึกประทับใจ แต่ภาพที่เห็นยังไม่ใช่ทั้งหมดของความอะเมซิ่ง เพราะถ้าใครมีโอกาสไปเยือนเมืองไทยแล้วจะรู้ว่าคนไทยใจดีและเป็นมิตรมากๆ  ทั้งยังมองโลกในแง่ดีอีกต่างหาก ไม่ว่าไปที่ไหนคุณจึงมักมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคนไทยเสมอ สมกับที่ได้รับฉายา “เดอะ แลนด์ ออฟ สไมล์”

6. เดินทางสะดวกและง่ายดาย
บางท่านอาจรู้สึกหวาดๆ เมื่อต้องเดินทางไปเยือนประเทศในแถบเอเชียเป็นครั้งแรก เพราะไม่รู้ว่าการเดินทางจะยุ่งยากแค่ไหน และไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า “หายห่วง” โดยเฉพาะประเทศไทย เพราะที่นี่คุณสามารถจองรถบัส (นำเที่ยว) เครื่องบิน รถไฟ เพื่อขึ้นเหนือ-ลงใต้ได้ที่โรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางแบบสุดหรูหรือสุดคุ้มก็ตาม แต่ถ้าเป็นการเดินทางระยะสั้นๆ ก็ยังมี รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ รถสองแถว รถประจำทาง ตลอดจนรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน ให้เลือกใช้บริการ
7. เดินทางต่อไปยังประเทศใกล้เคียงได้ง่าย
นอกจากการเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยจะทำได้โดยสะดวกและง่ายดายแล้ว การเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไทยก็ทำได้ง่ายเช่นกัน และเนื่องจากประเทศไทยมีพรมแดนติดต่อกับ ลาว เขมร เวียดนาม และมาเลเซีย การเดินทางต่อไปยังประเทศเหล่านี้จึงทำได้ง่ายทั้งขาไปและขากลับ ที่สำคัญ กรุงเทพฯ ยังเป็นหนึ่งในเมืองหลักด้านการเดินทางและที่พักของเอเชีย คุณจึงสามารถฝากกระเป๋าไว้ที่เกสต์เฮ้าส์แล้วเดินทางต่อไปยังประเทศอื่่น โดยเสียค่ารับฝากกระเป๋าเพียงวันละประมาณ 30 บาทเท่านั้น ที่สำคัญ ตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียอย่าง อินเดีย เนปาล และจีน ยังค่อนข้างถูกอีกด้วย
8. ค่าใช้จ่ายถูกลงกว่าเดิม
แม้การตอกย้ำความเจ็บปวดของคนอื่นจะเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลังจากประเทศไทยมีปัญหาทางด้านการเมืองอย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของไทยก็ซบเซาลง ซึ่งหมายความว่าการไปเที่ยวเมืองไทยในช่วงนี้จะมีค่าใช้จ่ายถูกลง ขณะที่การบริการยังดีเหมือน (หรืออาจมากกว่า) เดิม
ความจริงแล้วเมืองไทยเป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัย แม้ในช่วงที่มีปัญหาจราจลหรือเกิดเหตุประท้วงในกรุงเทพฯ ก็ไม่ส่งผลลามมาถึงนักท่องเที่ยว (ไม่มีการมุ่งทำร้ายหรือหมายเอาชีวิตนักท่องเที่ยว) ขณะที่คนกรุงเทพฯ เองก็ยังคงดำเนินชีวิตต่อไปตามปกติ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้ช่วยแก้ตัวหรือตอกย้ำปัญหาของเมืองไทย แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่าปีนี้ไม่ใช่ปีที่ดีนักในด้านการท่องเที่ยวของที่นี่ ซึ่งถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็ถือเป็นโอกาสทองของนักท่องเที่ยวที่จะได้เดินทางไปเยือนเมืองไทยในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม (หมายเหตุ: บทความนี้เผยแพร่ก่อนเงินบาทแข็งค่า)
9. ท่องเที่ยวผจญภัยได้สารพัดรูปแบบ
อยากลองขี่ช้างดูบ้างมั๊ย? อยากพายเรือคายัครอบเกาะสวยๆ หรือเปล่า? ใครอยากเดินสำรวจป่าเขตร้อนชื้นดูบ้างเอ่ย? หรืออยากเดินขึ้นดอยเพื่อไปเยือนหมู่บ้านชาวเขาดูบ้างมั๊ย?… คุณทำได้ทั้งหมดนี้เลยนะ ถ้าหากเดินทางไปเยือนเมืองไทย
10. เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ
ประเทศไทยเป็นที่ตั้งของแหล่งดำน้ำดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (หมู่เกาะสิมิลัน) จึงดึงดูดนักดำน้ำทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้นให้เดินทางไปชมความงามของโลกใต้ทะเลที่นั่นเป็นจำนวนมาก และถ้าหากใครดำน้ำไม่เป็นก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ไปเรียนดำน้ำที่เมืองไทย เพราะค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก และยังมีให้เลือกหลายแห่งอีกด้วย